ส่งออกจีน, จีนในปี 2025
จีนยังคงเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของไทย ทั้งในด้านมูลค่าการค้า ความหลากหลายของสินค้า และโอกาสในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 นี้ แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวบางส่วนจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ แต่ก็ยังคงเป็น “ตลาดที่น่าจับตามอง” โดยเฉพาะสำหรับสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพสูง
บทความนี้จะพาผู้ประกอบการไทยเจาะลึก แนวโน้มตลาดส่งออกจีนในปี 2025, กลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง และกลยุทธ์สำคัญในการเจาะตลาดจีนยุคใหม่
1. จีนในปี 2025: ชะลอตัวแต่ยังยิ่งใหญ่
ในปี 2025 จีนยังคงเป็น ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย ทั้งในแง่การส่งออกและการนำเข้า แม้จะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะชะลอตัวภาคอสังหาริมทรัพย์ การลดการบริโภคภายในประเทศ และนโยบาย Zero-COVID ที่เพิ่งสิ้นสุดไปไม่นาน แต่รัฐบาลจีนได้เริ่มใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
- ชนชั้นกลางในจีนยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองระดับรอง (Second-tier Cities) เช่น ฉางซา ซีอาน ฉงชิ่ง
- พฤติกรรมผู้บริโภคจีน เปลี่ยนไปสู่การเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และแบรนด์ที่มีเรื่องราว
- เทรนด์สุขภาพและธรรมชาติ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
- ช่องทาง E-commerce โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Tmall, JD, Douyin และ Xiaohongshu กลายเป็นหัวใจหลักของการบริโภค
ทั้งหมดนี้คือ “สัญญาณบวก” สำหรับผู้ส่งออกไทยที่รู้จักปรับตัว
2. สินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาดจีน 2025
2.1 อาหารและเครื่องดื่ม
อาหารไทยยังคงครองใจชาวจีน ทั้งในกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวเมืองไทย และกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบอาหารเอเชีย
- ผลไม้สด เช่น ทุเรียน มังคุด มะพร้าวน้ำหอม
- อาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยว อาหารพร้อมทาน
- เครื่องดื่มสมุนไพร เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำขิง น้ำมะตูม
- เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา พริกแกง น้ำจิ้มไก่
- อาหารฮาลาล สำหรับกลุ่มมุสลิมในจีนตะวันตก
การที่ไทยมีระบบรับรองคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีในด้านอาหารปลอดภัย ถือเป็นแต้มต่อในการเจาะตลาดจีน
2.2 สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น คอลลาเจน กลูต้า วิตามินจากธรรมชาติ
- ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เช่น ยาหม่อง น้ำมันนวด ยาแผนโบราณ
- สินค้าออร์แกนิก และสินค้าสำหรับดูแลสุขภาพระยะยาว
ผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและยินดีจ่ายเพื่อคุณภาพ
2.3 เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
แบรนด์ไทยเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นในตลาดจีน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ กลิ่นหอมจากสมุนไพร และไม่มีสารเคมีรุนแรง เช่น
- สบู่ธรรมชาติ
- ครีมบำรุงผิวจากมะพร้าว ขมิ้น มะขาม
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผมจากสมุนไพร
การบอกเล่าเรื่องราวแบรนด์ (Brand Storytelling) ผ่านช่องทางออนไลน์ในภาษาจีน มีผลอย่างมากต่อการสร้างยอดขาย
2.4 วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน
- สินค้ากลุ่มนี้เริ่มได้รับความนิยม โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อในเมืองระดับรอง ที่ต้องการสินค้านำเข้าในราคาสมเหตุสมผล
- ดีไซน์ไทยที่มีความอบอุ่น ความเป็นธรรมชาติ กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับตลาดจีนยุคใหม่
3. พฤติกรรมผู้บริโภคจีนยุคใหม่
- ชอบซื้อของผ่านแอปมือถือ มากกว่าเว็บไซต์ เช่น JD, Taobao, Pinduoduo
- ติดตามรีวิวจาก Influencer บน Douyin (TikTok จีน), WeChat, Xiaohongshu
- ไวต่อกระแส (Trendy) และพร้อมทดลองสินค้าใหม่เสมอ
- ต้องการสินค้ามีคุณภาพ มาตรฐาน และมี Storytelling
4. กลยุทธ์การเจาะตลาดจีนในปี 2025
4.1 ใช้ E-commerce เป็นเครื่องมือหลัก
- การเปิดร้านบน Tmall Global หรือ JD Worldwide ช่วยให้แบรนด์ไทยเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
- ใช้ Live-streaming, Influencer, และแคมเปญโปรโมชั่นช่วงเทศกาล เช่น 6.18 หรือ 11.11
4.2 จับมือกับพาร์ทเนอร์จีน
- การมีตัวแทนจำหน่ายที่เข้าใจวัฒนธรรมผู้บริโภคและระบบโลจิสติกส์จีน จะช่วยลดความเสี่ยง
- การร่วมลงทุนหรือตั้งบริษัท JV ในจีน เริ่มเป็นแนวทางของแบรนด์ที่ต้องการสร้างรากฐานระยะยาว
4.3 เน้นคุณภาพ + เรื่องราวแบรนด์
- สินค้าไทยต้องสร้างความเชื่อมั่นผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น อย. GMP หรือใบรับรองฮาลาล
- การสื่อสารแบรนด์ให้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ “ธรรมชาติ ความปลอดภัย หรือวัฒนธรรมไทย” ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ
4.4 เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในจีน
- เช่น China-ASEAN Expo (CAEXPO), CIIE (China International Import Expo) และ Canton Fair
- เป็นโอกาสดีในการพบคู่ค้า เจรจาธุรกิจ และแสดงสินค้ากับผู้บริโภคโดยตรง
5. ความท้าทายที่ต้องระวัง
- กฎระเบียบการนำเข้าเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องสำอาง ต้องมีการขึ้นทะเบียนและตรวจสอบหลายขั้นตอน
- การแข่งขันรุนแรงจากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากแบรนด์ญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป
- ต้นทุนโลจิสติกส์ ที่อาจสูงในบางช่วง ควรมีแผนการจัดส่งที่ยืดหยุ่น
6. สรุป: ตลาดจีน 2025 – ใหญ่ แข่งสูง แต่โอกาสยัง “ลึก”
ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดจีน แต่ก็ยังคงเป็น โอกาสทอง สำหรับสินค้าไทยที่รู้จัก “ปรับตัว” ให้ตรงใจผู้บริโภคจีนยุคใหม่
การเน้น “คุณภาพ” + “การตลาดดิจิทัลแบบเจาะจง” + “การสื่อสารแบรนด์ที่มีเรื่องราว” จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่กำลังวางแผนส่งออก หรือขยายแบรนด์ไปยังต่างประเทศ “ตลาดจีนยังคงเป็นเป้าหมายหลัก” ที่ไม่ควรมองข้าม และอาจเป็นตลาดที่สร้างรายได้หลักในอีกหลายปีข้างหน้า
#ส่งออกไทย #ตลาดจีน #สินค้าไทยสู่จีน #Ecommerceจีน #InterTraderAcademy #BlueOceanInterBiz #IAmInterTrader