เราได้ยินกันมานักต่อนักว่าการส่งออกคิดเป็น 60%ของ GDP ประเทศ แปลว่าประเทศเราต้องใหญ่มากๆ เป็นที่รู้จักสุดๆ ในตลาดต่างประเทศ แต่จริงแล้วก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับ เพราะมูลค่าการค้าขายระหว่างประเทศของทั่วโลก มีไทยเราไปเกี่ยวแค่ 1% เท่านั้นเอง ถือว่าเราเล็กมากครับในตลาดโลก
ในเมื่อเราเป็นตัวเล็กๆ ในตลาดโลกแล้ว เราก็ควรดูลู่ทาง และรู้จักผู้เล่นในตลาดก่อนออกไปเผชิญโลกกว้าง วันนี้ผมขอเขียนเกี่ยวกับธุรกิจส่งออกแบบภาพกว้างว่าใครเป็นใครในตลาดโลกบ้าง
ผู้ผลิตรายใหญ่
หนีไม่พ้นประเทศจีนครับ ผลิตได้แทบทุกอย่าง แต่จีนจะผลิตได้ดีในสินค้ากลุ่มอิเลคทรอนิค และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนสินค้าอื่นๆ ได้แต่ปริมาณ คุณภาพยังสู้ที่อื่นไม่ได้ สินค้าคุณภาพสูงมีผู้ผลิตประจำคือ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ในส่วนสินค้าเกษตรสหรัฐ บราซิลและประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ อาจจะงงแต่เป็นเรื่องจริงที่สหรัฐส่งออกข้าวโพดและฝ้ายเป็นอันดับต้นๆ ของโลกครับ
ผู้ผลิตรายเล็ก
เป็นประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น ไทย อินโดนีเซีย เวียตนาม ละตินอเมริกา เช่น ชิลี อาร์เจนติน่า อิหร่าน กลุ่มเหล่านี้มีศักยภาพในการผลิตดี เนื่องจากต้นทุนไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว แต่สามารถผลิตได้มีประสิทธิภาพอีกด้วย สินค้าที่ผลิตได้ดี ได้แก่ สินค้าเกษตร อุตสาหกรรมสิ่งทอ รถยนต์
ลูกค้าขาใหญ่
สหรัฐฯเป็นประเทศบริโภคอันดับ 1 ของโลก ไม่แปลกที่เค้าจะนำเข้าสินค้าเป็นอันดับ 1 เช่นกัน สินค้าที่สหรัฐนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นของราคาถูก สังเกตได้จากห้างดังๆ อย่าง Walmart มีผลประกอบการดีขึ้นทุกปี นอกจากนั้นยังมีประเทศในยุโรปที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง รัสเซีย ก็เป็นลูกค้าในกลุ่มนี้เพราะขาดความสามารถด้านการผลิตในสินค้าบางประเภท แต่มีเงินหนา จีนและญี่ปุ่นก็ถือเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ด้วยเหมือนกันครับ
เทรดเดอร์เจ้าตลาด
เป็นประเทศที่เก่งด้านการซื้อมาขายไป จัดการโลจิสติกส์และมีการบริการด้านการเงินระหว่างประเทศที่ครบสมบูรณ์แบบ ในแถบเอเชียก็มีฮ่องกง สิงคโปร์ ตะวันออกกลางมีดูไบ และในยุโรปก็คือเนเธอร์แลนด์
กลุ่มตลาดใหญ่เกิดใหม่
เป็นการรวมกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพคล้ายๆ กัน ดูจากจำนวนประชากร ขนาดเศรษฐกิจต่อบุคคลที่ยังไม่โตมาก และมีทรัพยากรรวมถึงปัจจัยการผลิตครบ ได้แก่ ประเทศในอาเซียน (AEC), ประเทศกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้), กลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกา และละตินอเมริกา
ในเมื่อเรารู้ว่าประเทศไทยส่งออกมากมายขนาดนี้ เรายังมีขนาดแค่ 1 เปอร์เซนต์ นั่นหมายความว่ามีโอกาสอีกเยอะมากจะขยายสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก ผมเคยคุยกับคนสิงคโปร์ เค้าบอกว่าประเทศเค้าขาดไทยไม่ได้ เพราะไม่มีใครผลิตให้ แต่ประเทศไทยเราเอง กลับไม่ทำตลาดเอง ผมได้แต่หวังว่าจะมีคนไทยทำธุรกิจเทรดดิ้งให้กับสินค้าไทยมากขึ้นในอนาคตนะครับ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่