ประเภทของธุรกิจส่งออก

ประเภทของธุรกิจส่งออก

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศนั้น เป็นวิธีเดียวที่เราจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศ แต่จริงๆ แล้วการหารายได้จากต่างประเทศนั้น มีหลายวิธีมากกว่านั้น  โดยการหารายได้นี้เรารวมทั้งการรับเงินจากทั้งที่อยู่ในไทย และในต่างประเทศ พูดง่ายๆ ก็คือการหารายได้จากลูกค้าชาวต่างชาตินั่นเอง ซึ่งธุรกิจที่จะหารายได้จากชาวต่างชาตินั้นมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยครับ

การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

การส่งสินค้าไปต่างประเทศนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะเมื่อพูดถึงคำว่าส่งออกหรือการหารายได้เข้าประเทศ เราจะนึกถึงการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาร อาหารแห้งเสื้อผ้าแฟชั่น จิวเวลรี่ ความงาม หรือแม้กระทั่งสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ ยางพารา พลาสติก เป็นต้น

การส่งออกประเภทนี้เป็นการส่งออกพื้นฐานที่ทุกๆ ประเทศต้องทำกันโดยเฉพาะหลายๆ ประเทศในแถบเอเชียซึ่งถือว่าเป็นโรงงานของโลก เช่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม บังคลาเทศ หรือแม้แต่ประเทศไทยเองก็เป็นโรงงานของโลกเช่นกัน

ซึ่งประเทศเหล่านี้อาศัยการผลิตสินค้าออกไปขายต่างประเทศ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการหารายได้เข้าประเทศ เนื่องจากมีแรงงานเยอะ ทำให้ค่าแรงถูก ลองสังเกตดีๆ ว่าประเทศไหนที่มีประชากรเยอะประเทศนั้นมักจะมีค่าแรงค่อนข้างถูก อาจจะมีข้อยกเว้นในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศจีนที่ในอนาคตอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้าจะเป็นประเทศที่มีประชากรเยอะแต่ค่าแรงแพงก็เป็นได้

ข้อดีของการส่งออกสินค้าคือ มีตลาดกว้างใหญ่มหาศาล สามารถทำเงินได้เยอะมาก และร่ำรวยได้แบบไม่จำกัด เนื่องจากทั่วโลกต้องกินต้องใช้สินค้านั่นเอง

อุปสรรคของการส่งออกสินค้า คือ ขั้นตอนพิธีศุลกากรต่างๆ กฎระเบียบข้อบังคับภาษี การจัดการการผลิตสินค้า สต๊อก และอายุสินค้า รวมถึงการตลาด การจัดการ การขาย การเงิน เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกอีกมากมาย

สำหรับการส่งออกสินค้านี้ ทางสถาบันเรามีคอร์สอบรมสำหรับมือใหม่นะครับ ติดตามได้ที่นี่ครับ >> เรียนนำเข้าส่งออก

การลงทุนต่างประเทศ

ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าคนที่ทำส่งออกใหม่ๆ หรือแม้แต่ผู้ที่ทำนานแล้วก็ยังเจอปัญหาและอุปสรรคอย่างหนึ่ง คือการกีดกันทางการค้า

แทบทุกประเทศทั่วโลกไม่มีใครอยากจะนำเข้าสินค้า ถ้าไม่จำเป็น หรือถูกบังคับตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ทุกประเทศไม่อยากเสียดุลการค้า แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ที่จะต้องนำเข้า แต่ละประเทศก็จะมีการกีดกันการนำเข้า ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้น

ความจำเป็นของสินค้านั้นมีอุปสรรคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าที่เป็นสินค้าอ่อนไหวต่อความมั่นคงของประเทศ ยกตัวอย่างในเมืองไทย เราปลูกข้าวได้เอง ส่งออกข้าวได้ ถ้าไม่มีประเทศที่ปลูกข้าวได้ได้จำนวนเยอะกว่าเราแล้วเอาเข้ามาขายก็จะทำให้เราสูญเสียตลาดหรือว่ามีปัญหาได้ หากนำเข้ามาขายในราคาต่ำมากๆ

เพราะฉะนั้นการข้าวก็ถือว่าเป็นสินค้าสถิติของคนไทยแต่เนื่องจากว่าข้าวของไทยดีคุณภาพดีและตลาดค่อนข้างชัดเจนว่าคนไทยก็ไม่ยอมกินข้าว Thailand ตลาดข้าวจะค่อนข้างไม่น่าเป็นห่วง

อีกตัวอย่างที่เป็นสินค้าระดับนานาชาติก่อนนั้นอย่าง คือการส่งออกทูน่ากระป๋อง ท่านเชื่อไหมครับว่าคนบริโภคทูน่ากระป๋องเป็นจำนวนมาก และประเทศไทยก็เป็นประเทศส่งออกทูน่าอันดับต้นๆ ของโลก บริษัทยักษ์ใหญ่เบอร์ต้นๆ ของโลกเป็นของคนไทย

เนื่องจากทูน่ากระป๋องเป็นสินค้าอ่อนไหวง่าย (ขึ้นราคานิดเดียวคนเดือดร้อนทั้งประเทศ) เหมือนกับน้ำมันพืช น้ำตาล ฯลฯ ทำให้แต่ละประเทศต้องมีการกีดกันทางการค้าการขึ้นภาษีทูน่าเพื่อป้องกันธุรกิจในประเทศของเขาสิ่งที่ธุรกิจน่าทำทำอยู่แล้ว

วิธีการที่บริษัทส่งออกทูน่าจะส่งสินค้าเข้าไปในแต่ละประเทศนั้น ก็คือการเข้าไปซื้อกิจการในประเทศนั้นๆ สมมติว่าเราเป็นบริษัทจากเมืองไทย แล้วจะส่งของเข้าไปขายที่ฝรั่งเศส – ฝรั่งเศสบอกว่าจะไม่นำเข้าทูน่าจากประเทศไทยแล้ว เพราะผิดกฎหมาย หรือมีการใช้แรงงานเถื่อน หรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม หากบริษัททูน่ายักษ์ใหญ่รายนั้นเข้าไปซื้อกิจการที่ประเทศนั้นแล้ว จะสามารถทำตลาดได้อย่างง่ายกว่า เพราะไม่ต้องเจอการกีดกันทางการค้านั่นเอง

กล่าวโดยสรุปคือ การลงทุนในต่างประเทศ ถือเป็นการส่งออกวิธีหนึ่ง ที่สามารถหลีกเลี่ยงกฎระเบียบการนำเข้าส่งออกได้นั่นเอง

การส่งออกบริการ

นอกจากการส่งออกสินค้าแล้วยังมีการส่งออกประเภทอื่นๆ อีก ซึ่งก็คือ การส่งออกบริการ ซึ่งเราสามารถส่งบริการออกไปต่างประเทศได้ และสร้างรายได้ให้กับคนไทยไม่แพ้กับการส่งออกสินค้า ถึงแม้จะมีมูลค่าน้อยกว่าแต่นับวันเริ่มมีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราอย่าลืมว่าประเทศไทยตอนนี้เป็นประเทศที่เริ่มจะเข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้ว ประเทศเรามีรายได้ต่อประชากรใกล้เคียงกับประเทศร่ำรวย มีค่าแรงสูงกว่าหลายๆ ประเทศ

การที่เราจะเริ่มไปแข่งในเรื่องการผลิตสินค้าให้ได้ต้นทุนถูก หรือเป็นฐานผลิตให้กับแบรนด์ต่างๆ นั้น อาจจะลดความสำคัญลง แต่เราจะเน้นภาคบริการมากขึ้น

การบริการที่เราสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ให้ผู้อ่านลองนึกถึงธุรกิจบริการอะไรบ้างที่น่าสนใจและคนไทยนิยมทำกัน ซึ่งมีไม่กี่อย่างที่ผุดชึ้นมาในหัว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านนวด ร้านสปา ร้านอาหาร เป็นต้น

การท่องเที่ยวถือเป็นพระเอกด้านรายได้ของคนไทย เราอย่าลืมนะครับว่าการท่องเที่ยวนี้นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยมากมายมหาศาล และสำคัญไม่แพ้การส่งออกเช่นกัน ลองนึกถึงสถานการณ์ covid นี้ดูไม่มีใครมาเที่ยวประเทศเราทำให้ รายได้ของคนไทยหายไปอย่างมากมายมหาศาล

การส่งออกอาจจะเป็นสิ่งที่นักธุรกิจหรือว่าเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางขนาดย่อมทำได้แต่การท่องเที่ยวเป็นการสร้างรายได้จนถึงรากหญ้าเลยลองคิดดูแค่นักท่องเที่ยวจีนหิวน้ำจะมาซื้อน้ำเปล่าหรือน้ำมะพร้าวกับรถเข็นที่แขนอยู่แถววัดพระแก้วได้ แค่นี้ก็ทำให้เศรษฐกิจระดับรากหญ้าได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ เช่น ธุรกิจอาหาร ท่องเที่ยวและสันทนาการแล้ว ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ธุรกิจอย่าง เช่น โรงพยาบาล สถานพักฟื้น บ้านพักคนชรา ที่นำรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม ธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างแดน

การส่งออกทรัพย์สินทางปัญญา

ทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถขายทำเงินได้นั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นค่าลิขสิทธิ์ ค่าแฟรนไชส์ การขายสิทธิบัตร เป็นต้น แต่เรื่องของทรัพย์สินทางปัญญานี้ผมจะ พูดถึงเรื่องของธุรกิจที่คนไทยทำได้เก่ง นั่นก็คือธุรกิจ Entertainment และธุรกิจที่มีศักยภาพซึ่งก็คือเรื่องของ Digital Assets นั่นเอง

เรื่องของธุรกิจบันเทิงในสายตาของชาวต่างชาติ คนไทยเราไม่แพ้ใครในโลก ไม่ว่าจะเป็นละคร โฆษณา หรือแอนิเมชั่น รวมถึงกองผลิตภาพยนตร์ด้วย คนไทยมีหัวคิดสร้างสรรค์ เราเป็นประเทศบันเทิงมากกว่าประเทศเทคโนโลยี มีศิลปะอยู่ในหัว ออกมาในทุกๆ อย่างของผลงานศิลปะ รวมถึงอาหารหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยซ้ำ

เรามีละครที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมต่างประเทศจนทำให้ดาราหลายๆ คนมีชื่อเสียงและมีแฟนคลับข้ามประเทศ เราโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก ทำให้คนดูขบขัน หรือเรียกน้ำตาได้ และยังได้รับรางวัลโฆษณาระดับโลกอีกด้วย นอกจากนี้เรายังมีมือโปรด้านการทำแอนิเมชั่นและภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับอีก ซึ่งนี่จะเป็นแหล่งรายได้ของประเทศอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน

แฟนคลับละครไทย https://mydramalist.com/list/P4Y6zBX1

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจบันเทิง คลิกที่นี่

ในส่วนของ Digital Assets ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาแรงในพ.ศ. นี้ เพราะโลกออนไลน์มีผลกระทบต่อชีวิตของเรานั่นเอง

สินค้า Digital Assets ได้แก่ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ การขายภาพถ่าย การสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเราสามารถหารายได้จากทุกแหล่งทั่วโลก แบบไร้ข้อจำกัด ชาวอินเดียเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมาก ก็รับจ๊อบสร้างเว็บไซต์ ทำอันดับให้ติด Search Engine (SEO) หรือรับเป็น Call Center ให้กับหลายบริษัททั่วโลก

ทั้งหมดที่ผมได้เล่ามาก็ถือว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจส่งออกหรือพูดง่ายๆ คือการหารายได้เข้าประเทศนี้เราอาจจะหารายได้เข้าประเทศได้หลากหลายวิธีซึ่งอย่างไรก็ตามท่านที่สนใจในการเริ่มต้นธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ สามารถติดต่อได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้

คอร์สเรียนนำเข้าส่งออก

Leave a Comment