ส่งออกสมุนไพรไทย
ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปอยู่ในวงการสมุนไพรที่มีแต่ผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งสินค้าสมุนไพรไทยไปต่างประเทศ และผมก็ได้เห็นโอกาสอันมหาศาลของสมุนไพร ที่คนไทยหลายๆ คนไม่ควรมองข้าม
วันนี้จะมาสรุปประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจสมุนไพรไทยให้อ่านกันนะครับ
เทรนด์ของโลกเปลี่ยนไป จากเคมีเข้าสู่ธรรมชาติ
จากภาวะโลกร้อน การมีขยะมลพิษมากเกินไป รวมถึงการเชื่อมั่นในการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และการแพทย์รวมถึงสุขภาพก็เช่นกัน คนเข้าหาการรักษาจากธรรมชาติมากขึ้น
สาเหตุหลักๆ มาจากการเสียชีวิตของคนยุคนี้ เปลี่ยนจากโรคติดต่อเป็นโรคไม่ติดต่อแทน คนเราไม่ได้เสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากเชื้อไวรัส แบคทีเรียมากเท่าเมื่อก่อน และโรคที่เกิดจากเชื้อโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันที่กำลังก้าวกระโดดไปอย่างไม่หยุดยั้ง
อย่างไรก็ตามโรคบางอย่างที่ไม่ติดต่อ หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ผิดๆ ต่างหาก ที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ และปัจจัยสำคัญคือการแพทย์สากลกลับรักษาโรคบางอย่างไม่หาย ทำให้ผู้คนหลายส่วนกลับไปหาแนวทางอื่นๆ ในการรักษา และปรากฏว่าแนวทางนั้นกลับกลายเป็นการแพทย์แผนโบราณ เช่น แผนจีน แผนไทย หรือแผนตะวันออก ที่พูดกัน โดยใช้สมุนไพร หรือพืชที่ได้จากธรรมชาติเป็นตัวหลักในการรักษานั่นเอง
จากการใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกห่างจากเคมี ทำให้การรักษาโรค หรือการแพทย์ด้วยสมุนไพรกลับกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และนั่นทำให้ตลาดสมุนไพรเองเติบโตขึ้นมากทีเดียว
ยังไม่ทันขายเลย ลูกค้าก็มาแล้ว
แม้แต่ตัวผู้เขียนเองตอนเริ่มต้นสนใจแต่ส่งออกอาหาร ก็กลับกลายเป็นว่ามีลูกค้าจากประเทศเจริญแล้ว หลายๆ แห่ง สอบถามเกี่ยวกับสมุนไพรบางชนิดด้วย
นี่ยังไม่นับปัจจัยโควิด 19 นี่เพิ่งมามีบทบาทเกี่ยวกับการแพทย์อีกด้วย ทำสินค้าบางตัวอย่างฟ้าทะลายโจร ขายดี ของขาดตลาดกันเลยทีเดียว
สมุนไพรไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้แล้วเห็นผล
สำหรับใครที่ไม่ทราบ การรักษาแบบแพทย์แผนโบราณนั้น มีความเชื่อว่าการที่คนเราป่วย เกิดจากระบบภายในบางอย่างบกพร่อง ถ้าอยากหาย ก็แค่ทำให้ร่างกายกลับมาทำงานปกติ ด้วยการบริโภคยาหรือสมุนไพรบางอย่างเข้าไป ซึ่งการรักษาแบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่าแนวธรรมชาติ และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากเทรนด์ในปัจจุบัน ผู้คนเริ่มหันกลับมาหาธรรมชาติมากขึ้น อะไรที่ทำจากธรรมชาติ หรือหลีกเลี่ยงสารเคมี การปรุงแต่ง ยิ่งได้รับความนิยม และขายได้ราคาแพงขึ้นอีกด้วยนั่นเอง
ภาครัฐผลักดันสมุนไพรไทยแบบสุดตัว
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปฟังสัมมนาเกี่ยวกับตลาดสมุนไพรที่กรมการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเจ้ากระทรวงมีนโยบายชัดเจนในการเปลี่ยนการสาธารณสุขให้เป็นแหล่งรายได้ของประเทศ เราจะทำยังไงให้การแพทย์ของไทยเป็นแหล่งรายได้อีกแหล่งของประเทศไทย ซึ่งผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆ ครับ
และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายแบบนี้ แปลว่าสิ่งที่เค้าจะสนับสนุนจะต้องมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน ธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์และสมุนไพรไทย ก็จะได้รับการสนับสนุนก่อนธุรกิจประเภทอื่น มีการทำตลาด บุกตลาดไปอีกหลายๆ ประเทศอย่างแน่นอน
เป็นตลาดที่คนทำน้อยมาก แต่คนซื้อมหาศาล
แต่เชื่อมั้ยครับว่า ถึงเราจะรู้ว่าการทำสมุนไพรมีอนาคต ก็ยังมีคนทำสมุนไพรออกมาจำนวนไม่มาก ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ เช่น ความเชื่อว่าการแพทย์แผนไทยอาจจะยังสู้แผนสากลไม่ได้ เพราะไม่มีงานวิจัยรองรับ ซึ่งนี่เป็นโจทย์ที่ภาครัฐต้องแก้ไข แต่สำหรับผู้ประกอบการอย่างเราๆ หากตลาดไหนมีคนขายน้อย แต่คนซื้อเยอะนี่คือโอกาสอันมหาศาลนั่นเอง
ตลาดหลักคือการส่งออกสมุนไพรไทย
ในเมื่อตลาดในประเทศยังไม่เชื่อมั่น หรือยังไม่แข็งแกร่งพอ การเติบโตจากภายนอกด้วยการส่งออกสมุนไพรไทยไปดังในต่างแดนก่อน แล้วค่อยเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก และถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการทำธุรกิจสมุนไพรไทย
ฉะนั้นใครที่ยังไม่รู้จะทำสินค้าตัวไหนดี ผมก็อยากจะแนะนำตลาดนี้อย่างสุดตัว เพราะในไม่ช้ามันจะบูม และเมื่อถึงเวลานั้น เราจะเกาะขบวนรถไฟไม่ทันก็ได้ ขอแค่คุณรอคอยความสำเร็จได้ เพราะธุรกิจนี้เป็นระยะยาว ต้องค่อยๆ สร้าง ทำแบบฉาบฉวยไม่ได้นะครับ
เตรียมตัวเริ่มต้นส่งออกสมุนไพรไทย
หากผู้อ่านมีความสนใจในการทำตลาดสมุนไพรไทยไปขายต่างประเทศ แต่ยังไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านการส่งออกสมุนไพร ขอแนะนำให้หาคอร์สเรียนการนำเข้าส่งออกเพื่อจะได้เตรียมตัวและเข้าใจ รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงในการส่งออกอีกทางนึงด้วย หากท่านสนใจเรียนกับสถาบันของเราสามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ
สนใจเรียนคอร์สนำเข้าส่งออก อ่านที่นี่
หวังว่าเราจะได้พบกันเร็วๆ นี้ครับ