หลายคนคงได้ยินเว็บนี้นะครับ Ebay.com และคงเคยได้ยินคำพูดต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นเว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก มีสินค้าประมูลด้วย บางคนก็ขายแล้วรวยมากๆ ด้วย เป็นเว็บซื้อขายของสะสมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกตะหาก วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันเพื่อทำความรู้จักกับเว็บอีเบย์นะครับ
อีเบย์เป็นเว็บแรกๆ ที่คนไทยรู้จัก ในฐานะเว็บซื้อขายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงมีการประมูลสินค้าด้วย ผู้ซื้อ ผู้ขาย ไม่ว่าอยู่ประเทศไหน ขอแค่มีระบบขนส่งที่สามารถรับสินค้าได้ และมีบัตรเครดิตที่สามารถชำระเงินได้ แค่นี้อีเบย์ก็ขายของให้คุณได้ละครับ
จุดเริ่มต้นของเว็บอีเบย์
อีเบย์นั้นเป็นเว็บที่เริ่มต้นมาจากการประมูลสินค้า เริ่มในประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเริ่มมาจากนิสัยของคนอเมริกันก่อนครับ ถ้าใครเคยดูรายการจัดการคนบ้านรกทั้งหลาย เราจะพบว่าคนอเมริกันมีนิสัยแปลกๆ อย่างนึงคือ ชอบสะสมของไม่ใช้แล้ว บ้านเค้าใหญ่ เก็บอะไรเยอะๆ ก็ได้ จึงไม่ค่อยนิยมทิ้งกัน ในทางกลับกัน ก็มีนิสัยชอบหาของสะสมด้วย คือมันอาจจะมีมูลค่าทางใจหรืออะไรสักอย่าง เค้าก็เลยนิยมสะสม และนี่ล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของเว็บอีเบย์
คนอเมริกันทั่วไป มีความอยากหาของสะสมทั้งหลายจากทั่วโลก (นิสัยรากเหง้านี้ไม่เว้นแม้แต่ไปขุดของโบราณของประเทศอื่นๆ มาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ตัวเองด้วยนะครับ) อีเบย์เห็นโอกาส ก็เลยทำเว็บขึ้นมา เพื่อให้ใครก็ตามที่มีของที่ไม่อยากใช้ ของมือสอง ของสะสม ก็เอามาขายกันในเว็บนี้ได้ โดยใช้ระบบประมูล เหมือนเวลาเราขายของเก่ากัน ใครให้เงินเยอะสุด คนนั้นก็ได้ซื้อสินค้าไปนั่นเอง
จุดเด่นของอีเบย์
อีเบย์นั้นมีระบบประมูลสินค้า ที่ให้คนทั่วไปมาแข่งขันกันประมูลได้ ซึ่งแน่นอนว่าคนขาย ก็มีความเสี่ยงว่าจะได้ราคาไม่ถึงเท่าที่ต้องการนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การประมูลก็เป็นปัจจัยหลักๆ ในการเร่ง หรือกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าบนอีเบย์
อีกอย่างหนึ่งที่พิเศษคือ อีเบย์มีระบบการให้คะแนนผู้ซื้อ ผู้ขาย หรือที่เรียกว่า Rating เพื่อเป็นการดัดหลัง รวมถึงป้องกันการขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ระบบนี้ก็ยังป้องกันผู้ซื้อนิสัยไม่ดี ซื้อของแล้วบอกว่าไม่ได้รับของ ขอเงินคืนอีกด้วย ซึ่งระบบนี้ ถ้ามองในฐานะผู้ขาย เราอาจจะรู้สึกว่ามันหยุมหยิม และก็มีโอกาสโดนให้คะแนนแย่มากกว่าคะแนนดี เข้าทำนองทำดีเฉยๆ แต่ถ้าทำผิดดราม่าใหญ่โตนั่นเอง
และอีกข้อดีที่สำคัญมากๆ ของอีเบย์ คือ เค้ามีระบบการชำระเงินที่ชื่อว่า Paypal (เพย์พาล) ที่สร้างมาเพื่อคู่กัน ยังกะฝาแฝด ไปไหน พอพูดถึงอีเบย์ ก็จะนึกถึงเพย์พาลด้วยนั่นเอง
เพย์พาลนี้เป็นธนาคารออนไลน์ ที่รับชำระเงินค่าสินค้า จากทั้งอีเบย์และการค้าขายอื่นๆ ได้ ลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ เพย์พาลจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบของอีเบย์ได้เลย เมื่อไหร่ที่เราซื้อของ เงินก็จะถูกหักจากบัญชีเพย์พาล และมาหักเงินในบัตรเครดิตเราอีกต่อนึง เมื่อไหร่ที่ขายของได้ เงินก็จะถูกนำเข้าบัญชีเพย์พาลของเรา และเราสามารถโอนเงินจากบัญชีเพย์พาล มาเข้าบัญชีธนาคารเราจริงๆ ได้ด้วย แต่แน่นอนค่าธรรมเนียมก็ค่อนข้างสูงอยู่ และไม่มีดอกเบี้ยอีกตะหาก คนขายก็ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายตรงนี้ไว้ด้วยเช่นกัน
จุดอ่อนของอีเบย์
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็เริ่มอยากรู้สึกทำมาค้าขายกับอีเบย์แล้วใช่มั้ยครับ ผมจะขอเล่าเกี่ยวกับข้อด้อยอีเบย์ในมุมมองผมบ้างนะครับ
ข้อแรกคืออีเบย์ไม่มีระบบขนส่งของตัวเอง ซึ่งแปลว่าการซื้อขายทุกครั้ง สินค้าจะถูกจัดส่งโดยบริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ (Courier) เช่น ไปรษณีย์ไทย DHL, FedEx เป็นต้น ซึ่งไม่มีอะไรยืนยันว่าเราได้ส่งสินค้าไปจริงๆ ยกเว้นเลข Tracking ซึ่งต่อให้มีสินค้า หากสินค้าไม่ถึงมือลูกค้าก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องตามสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย และที่แย่กว่านั้น บางทีคนที่ซื้อขายกับเราอาจจะไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น และให้คะแนนห่วยๆ กับเราก็ได้
ข้อที่สอง สืบเนื่องมาจากข้อแรก บางครั้งผู้ซื้อบนอีเบย์ ก็จะมีความอยากแกล้งผู้ขาย โดยการให้คะแนนต่ำๆ แบบไม่แคร์อะไรทั้งนั้น หรือบางทีให้คะแนนต่ำๆ เพราะแค่ไม่พอใจ หรือผิดมาตรฐานตัวเอง ซึ่งมาตรฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งนี่เป็นปัจจัยที่ห้ามไม่ได้ แต่ป้องกันและแก้ไขได้บ้างระดับนึง ผมเลยคิดว่านี่เป็นข้อเสียครับ
ข้อเสียสุดท้ายคือ ต้องทำงานหนัก การขายอีเบย์ เป็นการขายแบบ Consumer to Consumer ลูกค้าซื้อสินค้าแบบชิ้นต่อชิ้น ซึงหากเรามีสินค้าจำนวนเยอะๆ เราต้องโพสต์ขายทีละชิ้น เหนื่อยมาก อีเบย์เลยมีระบบหน้าร้านขึ้นมาเพื่อรองรับคนขายแบบมืออาชีพเลยเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้
ขายอะไรดีบนอีเบย์
เราควรขายอะไรดีบนอีเบย์ ขอบอกว่านี่เป็นความลับเงินล้าน ซึ่งผมคงไม่สามารถบอกตรงๆ ได้ว่าสินค้าที่ควรขายคือไอเท็มไหน เพราะมันเป็นความลับทางการค้าของคนขายอีเบย์ด้วยกัน คือ เวลาเจอกัน ทักทายกัน แลกเปลี่ยนความรู้ในการโพสต์สินค้า การถ่ายรูป การตอบข้อโต้แย้งกับลูกค้าได้ แต่ว่าไม่ควรถามกันว่าพี่ขายอะไร เพราะมันคือความลับ เหมือนเราไปถามเค้าว่าเงินเดือนเท่าไหร่ บางคนก็ไม่บอกนะครับ
กลับมาที่เรื่องสินค้า ในเมื่อผมไม่บอกตรงๆ แต่ผมจะมีแนวคิดในการเลือกสินค้ามาขาย โดยวิเคราะห์จากเว็บอีเบย์ให้วิเคราะห์ต่อกันเองนะครับ
อีเบย์เป็นเว็บขายของสะสม
คำว่าของสะสมคือของที่มันเก่า หรือมันมีสตอรี่ เรื่องราวของมัน มีประวัติ มีอะไรสักอย่างที่น่าสนใจ และที่สำคัญ มีคนนิยมมันอยู่ พอพูดถึงคำว่าสะสม เราก็จะนึกถึงของมากมายที่เราชอบสะสมตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นสแตมป์ หรือ เหรียญกษาปณ์ ก็ว่ากันไปนะครับ สินค้าพวกนี้แหละที่เป็นตัวหลักของการทำอีเบย์เลย
ตัวอย่างด้านบนอาจจะธรรมดา แต่ผมอยากให้มองภาพกว้างไปกว่านั้นอีกครับ ลองนึกดูเล่นๆ ว่าคนเรามันชอบหรือหลงใหลอะไรบ้าง เช่น บางคนก็หลงใหลคิตตี้ หรือดิสนีย์ เรามีของพวกนี้อยู่มั้ย ถ้ามีก็น่าสนใจไม่น้อย
ขยายออกไปอีก คนประเทศอื่นๆ ล่ะ ชอบอะไรอีกบ้าง สมมติว่ามองนอกเหนือจากคนอเมริกัน คนญี่ปุ่นบางคนอาจจะรอสะสมสินค้าของประเทศเค้าที่เวอร์ชั่นภาษาไทยก็ได้นะครับ
และนี่ก็คือไอเดียสำหรับการหาสินค้าขายบนอีเบย์ในหมวดของสะสมนะครับ
อีเบย์ขายของที่หาได้ยาก มีน้อยชิ้น
ลองนึกถึงรถยนต์บางยี่ห้อที่หายากๆ ก่อนหน้านี้เราอาจจะคิดว่าคงเจ๊งแน่ถ้าใครซื้อ แต่ปัจจุบัน มันกลับกลายเป็นของสะสมไปโดยไม่รู้ตัว ผมอาจจะไม่ได้แนะนำให้ขายรถยนต์ แต่อาจจะมองไปที่อะไหล่รถยนต์แทนนะครับ ลองนึกภาพเล่นๆ ว่า ถ้าของอะไรสักอย่างนึง มันเลิกผลิตไปแล้ว แต่มีบางคนก็ยังอยากใช้มันอยู่ แต่หาอะไหล่ไม่ได้ เพราะมันเลิกผลิตไปแล้วอีกนั่นแหละ ถ้าคุณมีสินค้าอะไรบางอย่างที่ทำมาไม่กี่ชิ้นในโลก หรือของมันหมดไปแล้ว ก็เป็นสินค้าน่าขายเช่นกัน ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงรถบางรุ่นของไทย ที่ไม่มีอะไหล่ขายแล้ว แต่เราก็ต้องไปหาสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีขายรุ่นนี้อยู่นั่นแหละครับ
อีเบย์ขายแต่ของที่ไม่ได้ซื้อบ่อยๆ
ถ้าให้แปลงร่างอีเบย์เป็นตลาดออฟไลน์ในไทย ผมก็จะนึกถึงแต่บางที่ เช่น จตุจักร คลองถม เป็นต้น ซึ่งเราคงไม่ได้ไปเดินตลาดพวกนี้ ถี่เท่าไหร่ หรือเดินน้อยกว่าไปซื้ออาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตแน่นอน และนี่แหละครับ จุดต่างของอีเบย์ เราอยากจะหาสินค้าที่ไม่ได้ซื้อบ่อย หรือมีมูลค่าทางใจ งานอดิเรก สิ่งที่เรารัก เปลี่ยนมือยากๆ หน่อย นั่นเอง หากเราหาสินค้าพวกนี้ไปขาย คือเป็นของที่มีคนตามหามานาน หายากสุดๆ ก็จะขายดีได้เช่นกันครับ
อีเบย์เป็นตลาดขายสินค้ามือสอง
อีกตลาดนึงที่น่าสนใจคือสินค้ามือสองนะครับ คำว่ามือสองไม่ได้จำเป็นว่าเราจะต้องไปซื้อต่อจากคนอื่นเท่านั้น สินค้าที่เราใช้แล้ว และไม่อยากใช้อีก ก็เป็นมือสองได้เช่นกัน ของที่เราเคยมี แต่ปัจจุบันใช้ไม่ได้แล้ว ของที่เราเคยฮิต แต่ตอนนี้เราไม่ฮิตแล้ว ของที่เราอยากจะเคลียร์ออก เพราะมันรกบ้านเหลือเกิน ของที่เราอยากจะทิ้ง แต่เสียดายถ้าจะทิ้งไปฟรีๆ เห็นมั้ยครับ มันมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ผมว่าบางที การที่เราขายของทางอีเบย์อาจจะทำให้บ้านโล่งขึ้นก็ได้นะครับ
มาถึงตรงนี้หวังว่าทุกคนคงนึกภาพออกแล้วนะครับว่าจะขายอะไรดีบนอีเบย์ ขอให้โชคดีกับการขายนะครับ ส่วนใครที่ไม่คิดว่าอีเบย์จะเป็นแนวการขายของที่ใช่ ลองไปดูแพลทฟอร์มอื่นๆ ในบทความถัดไปได้เลยครับ