การขนส่งสินค้าทางอากาศ

สินค้าที่เหมาะในการขนส่งทางอากาศนั้นมีหลายแบบ เช่น สินค้าน้ำหนักเบา มีมูลค่าสูง หรือพวกสินค้าที่อายุการใช้งานสั้น ของสด ผักผลไม้สดทั้งหลาย ก็นิยมส่งผ่านช่องทางนี้ แต่ไม่ได้กำหนดตายตัวนะครับว่าสินค้าอย่างอื่นส่งไม่ได้ ผมยังเคยส่งสินค้าหนักมากๆ ทางอากาศมาแล้ว เพราะลูกค้าต้องการด่วน ก็ทำได้เช่นกันครับ

สมมติว่าเราต้องขนส่งทางอากาศ เราจะมีขั้นตอนการเตรียมตัวยังไงบ้าง เราข้ามไปที่สเตปได้รับการคอนเฟิร์มออเดอร์จากลูกค้าแล้วนะครับ

ขั้นตอนการขนส่งสินค้าทางอากาศ

ขั้นแรกเลย ให้เราเช็ควันเวลาที่แน่นอนในการจัดส่งสินค้าได้เลย ว่าของเราเสร็จเมื่อไหร่ พร้อมส่งเมื่อไหร่

ขั้นตอนถัดมา เราต้องเตรียมตัวจองเครื่องบิน แต่ก่อนจะจองเครื่องนั้น เราต้องมีข้อมูลให้ชิปปิ้งก่อนเช่นกันว่า เราจะส่งสินค้าอะไรไปที่ไหน ปริมาตรเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ การคำนวณน้ำหนักและปริมาตรของสายการบินนั้นต่างจากสายเรือพอสมควร ต้องมีการคำนวณที่ซับซ้อนกว่าเดิมอีก หากคุณขายสินค้าเป็น FOB ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะลูกค้าเป็นคนจ่าย แต่ถ้าขายพวก CFR, CIF หรือรวมค่าเครื่องบินแล้ว จะคำนวณยากกว่านั้น อาจถึงขั้นขาดทุน (ผมเคยเจอมาแล้ว) ยังไงต้องหาวิธีคำนวณให้เรียบร้อยก่อนเสนอราคาให้ลูกค้านะครับ

ถัดมาให้จองเครื่องบินได้เลยครับ จริงๆ แล้วสายการบินถ้ารีบจองก็ดี เพราะว่ามีพื้นที่น้อย เต็มง่าย แต่โชคดีว่าสมัยนี้มีเที่ยวบินเยอะ ออกทุกวัน ถ้าไม่พอก็มีพวกโลวคอสแอร์ไลน์ทั้งหลาย ก็ช่วยให้เราหาเที่ยวบินได้ไม่ยากครับ เพิ่มเติมข้อมูลให้ครับว่าสายการบินเนี่ยมี 2 แบบ คือแบบเหมาลำมีแต่สินค้า กับแบบโดยสาร ซึ่งเราจะเจอทั้งสองประเภท ถ้าเลือกได้แบบแรกดีกว่าครับ

เมื่อสินค้าเราพร้อมแล้วก็นำส่งไปที่เครื่องบินได้เลย ไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินะครับ ไม่ใช่คลองเตย อย่าลืมเด็ดขาด

หลังจากเราส่งของขึ้นเครื่องบินแล้ว เราจะได้เอกสารอีกใบมา ชื่อว่า Airway Bill เป็นเอกสารที่สายการบินบอกว่าผมรับของคุณแล้วนะ ผมจะไปส่งให้เรียบร้อย และเป็นใบเสร็จไปในตัวด้วย แต่ Airway Bill มีข้อต่างจาก Bill of Lading ของสายเรือนิดนึงคือ ผู้รับของที่สนามบินปลายทางไม่ต้องถือเอกสารตัวนี้เพื่อรับของ แค่ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับที่มีชื่ออยู่บนเอกสารนี้ก็รับของได้เลย ฉะนั้น ถ้าใครจะกั๊กเอกสารนี้เพื่อรอเรียกเก็บเงินก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ครับ อันนี้ระวังไว้ด้วย

อ้อ อย่าลืมที่สำคัญ ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายซื้อประกัน ก็ควรซื้อนะครับ อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน ซื้อไว้ดีที่สุดครับ

จากนั้น เราก็ทำตามขั้นตอนเดิมคือ นำเอกสารอื่นๆ พวก Invoice, Packing List, Airway Bill, Certificate of Origin ส่งให้ลูกค้าทาง Courier เหมือนเดิมครับ

เป็นอันจบวิธีการขนส่งทางอากาศ หวังว่าทุกท่านจะมองภาพได้ง่ายขึ้นนะครับ

สนใจเรียนธุรกิจส่งออก คลิกที่นี่

 

แหล่งข้อมูล

 

บทความเกี่ยวข้อง

Leave a Comment